7 กลยุทธ์ในการเพิ่มความพึงพอใจ และดึงดูดลูกค้าผ่านทาง Internet article

7 กลยุทธ์ในการเพิ่มความพึงพอใจ และดึงดูดลูกค้าผ่านทาง Internet

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ธุรกิจจำนวนมากมีการเติบโตมากขึ้นด้วยการใช้ website เข้ามาช่วยธุรกิจ  ผลของการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้คือลูกค้ามีทางเลือก เพิ่มมากขึ้น  อีกด้านหนึ่ง บริษัทต่างๆ ต่างกำลังเผชิญกับการท้าทายของคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น  แต่ในบางกรณี ก็เป็นการลดคู่แข่งลงได้ด้วย

การแนะนำบอกต่อธุรกิจมีความความสำคัญมากยิ่งขึ้นเพราะจะช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าหรือรายได้ให้แก่ธุรกิจของตนได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะธุรกิจใดๆก็ตาม และยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากขึ้นด้วย โดยทั่วไปยิ่งลูกค้าพึงพอใจมากเท่าใด ยิ่งเกิดความภักดีกับบริษัทเราตามมา โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองซื้อของขวัญราคาแพงเพื่อให้ลูกค้ามีความสุข

7 วิธีในการช่วยคุณเพิ่มความพึงพอใจและสร้างความภักดีให้กับลูกค้าของคุณ

  1. ตอบกลับให้เร็วหรืออย่างน้อยที่สุดภายในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล
  2. คนส่วนใหญ่ทุกวันนี้คาดหวังคำตอบจากสิ่งที่พวกเขาถามไว้กลับมาภายในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็น E-mail หรือโทรศัพท์ และไม่ว่าจะตอบกลับไปยังผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคตหรือลูกค้าจริงก็ตาม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการกำหนดการสื่อสารที่ได้ผลและมีเวลาที่จะตอบกลับไปยังลูกค้าให้ได้ และที่สำคัญคือควรตอบกลับในช่วงเวลาที่ลูกค้าสะดวก สิ่งที่สำคัญควบคู่กันคือ คุณต้องทำให้เห็นว่าคุณดูแลพวกเขาเหมือนลูกค้าและดูแลในส่วนที่ลูกค้าต้องการจริงๆ หากคุณพบว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถตอบได้เต็มที่ คุณควรบอกขออภัยในความล่าช้า

  3. ถามลูกค้าว่าอยากให้ตอบกลับวิธีใด
  4. หนึ่งวิธีในการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าคือการสื่อสารกับลูกค้าผ่านวิธีการที่ลูกค้าพึงพอใจ  สำหรับลูกค้า online การใช้ E-mail เป็นวิธีสื่อสารพื้นฐานวิธีหนึ่ง  โดยวิธีการนี้ลูกค้าไม่ต้องเปิดเผยชื่อไว้ได้  ซึ่งเป็นสถานะที่สำคัญกับกลุ่มลูกค้า online แม้ว่าลูกค้าจะให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ แต่พวกเขาคงประหลาดใจหากคุณเลือกติดต่อพวกเขาทางโทรศัพท์ ถ้าคุณเลือกใช้วิธีการโทร ให้คุณคิดเสมอว่าการโทรนั้นอาจเป็นการคุกคามและละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวมากขึ้นได จัดเตรียมบันทึกคำถามต่างๆ ไว้ล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าคุณถามครบทุกประเด็นและใช้เวลาคุ้มค่าที่สุด การติดต่อผู้คนด้วยวิธีการที่พวกเขาพึงพอใจ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่คุณจะเข้าถึงลูกค้าด้วยกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล ด้วยการสื่อสารที่เป็นผลและการบรรลุเป้าหมาย

  5. สร้างสรรค์ website ให้ดูดีเสมอ
  6. ทันทีที่ผู้เข้าชมเข้าเว็บคุณและดูเว็บคุณอยู่นั้น คุณมีเวลา 10 วินาทีในการจับความสนใจของพวกเขา ผู้คนจะตัดสินเว็บของคุณอย่างรวดเร็วและตกลงใจไม่ว่าพวกเขาจะอยากให้โอกาสคุณมาเป็นบริษัทหรือเป็นนายหน้าของพวกเขาหรือไม่ ด้วยการจัดวางและรูปภาพที่ดึงดูด พร้อมทั้งข้อมูลการติดต่อที่จัดวางบน home page ที่ชัดเจนเหล่านี้ ทำให้ website ของคุณนั้นเริ่มต้นได้ดีทีเดียว เมื่อคุณเริ่มจัดหาข้อมูลลงบน website ของคุณ ที่เกี่ยวกับแหล่งจำหน่ายสินค้า อย่างแถวละแวกบ้าน โรงเรียน หรือจุดอื่นๆที่น่าสนใจ คุณได้เริ่มเพิ่มคุณค่าให้กับ website ของคุณด้วย คุณอาจจะให้เหตุผลให้ลูกค้ากลับมาใหม่และพวกเขาจะไปบอกต่อด้วยเช่นกัน Blog เป็นเครื่องมือที่ง่ายและใช้ได้ผลกับการสื่อสารกับผู้อ่าน ใน Blog คุณสามารถ Post ข้อมูลการซื้อขาย อัพเดทข้อมูลในแต่ละวันและแสดงความคิดเห็นที่อาจจะช่วยผู้เข้าชม website ให้ศึกษาได้

  7. ทำให้เป็นส่วนตัวและตามความต้องการของลูกค้า
  8. ทุกสิ่งที่คุณทำเมื่อคุณติดต่อกับลูกค้าทาง Internet เป็นที่เข้าใจว่าควรทำตามความต้องการของลูกค้า Internet ทำให้คนนั้นอิสระและไร้ตัวตน แต่เมื่อพวกเขาต้องการข้อมูล พวกเขาจะคาดหวังการบริการลูกค้าในระดับสูง Template เป็นอุปกรณ์สำคัญในการประหยัดเวลา แต่ต้องไม่ลืมที่จะปรับปรุงส่วนประกอบ website 2-3 อย่างเพื่อให้เหมาะกับลูกค้า เพราะทุกวันนี้ผู้คนฉลาดมากยิ่งขึ้นและรอบรู้ internet มากขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงรู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้

  9. คิดในมุมมองเดียวกับลูกค้า
  10. การซื้อเป็นอารมณ์การตัดสินใจที่สำคัญและเกิดขึ้นบ่อยในชีวิตมนุษย์ ผู้อุปโภคบริโภคส่วนใหญ่จะเลือกคนที่พวกเขารู้สึกว่า คนๆนั้นจะดูแลความต้องการของพวกเขาได้ดีที่สุด คุณควรแสดงให้เห็นว่าคุณอยู่ข้างเดียวกับลูกค้า ด้วยการฟังคำถามของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาชอบ จากนั้นตอบพวกเขาในวิธีที่จะพิสูจน์หรือทำให้รู้ว่าคุณเห็นว่าพวกเขาเป็นดั่งคนสนิทเป็นดั่งเพื่อน และควรคิดในมุมมองของลูกค้าด้วย กฎง่ายๆข้อนี้นำไปปรับใช้กับการริเริ่มทำการตลาดใดได้ การมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองเดียวกับลูกค้าจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไป

  11. ศึกษาลูกค้าของคุณ
  12. ควบคู่กับการสร้างความคาดหวัง การตัดสินใจอย่างง่ายในการทำงานให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันทางการตลาดคือ การศึกษาลูกค้าและจัดการความคาดหวังของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น การมีข้อเท็จจริง เอกสาร ข่าวสาร Blog ฯลฯ ให้กับลูกค้าจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจว่าคุณมาจากไหนและช่วยยืนยันจุดยืนของคุณได้ด้วย คุณควรทำเอกสารบทความออกมาให้ลุกค้าได้ถือไว้อ่านด้วย การเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตลาดของตนเองคือ ความเป็นเลิศในการสร้างความเชื่อใจและการสร้างลูกค้าของตนเองได้ และเป็นความรับผิดชอบของคุณที่จะต้องทำความเข้าใจและความสามารถให้รู้ถึงความแตกต่างเพื่อช่วยในการเรียนรู้ลูกค้าได้

  13. ทำการสำรวจและติดตามผล
  14. การสำรวจเกี่ยวกับลูกค้าเป็นเครื่องมือหรือแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่า  คุณสามารถทำการสำรวจลูกค้าได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ติดต่อหรือพบกัน หรือสำรวจในช่วงกลางหากมีการติดต่อที่กินเวลานาน และหรือสำรวจในช่วงสุดท้ายเมื่อใกล้จะจบการติดต่อกัน  จากนั้นค้นหาว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไรในสินค้ของคุณและหรือสิ่งที่คุณเสนอให้ลูกค้าไป จากนั้นวิเคราะห์คำตอบของลูกค้าเพื่อหาว่าอะไรที่คุณสามารถปรับปรุงเกี่ยวกับกลยุทธ์และวิธีการได้ สุดท้ายเก็บผลวิเคราะห์ที่ได้เอามาวิเคราะห์เป็นหน่วยที่วัดว่าธุรกิจของคุณควรจะพัฒนาอย่างไร และมีสามารถใช้ในการกำหนดแผนทำงานกับลูกค้า   ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจที่ได้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับธุรกิจตนเองได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น

แปลบทความโดย:  ภคภัค ปุคคละนันท์
แหล่งข้อมูล : http://Top7Business.com/ Top 7 Strategies to Increase Customer Satisfaction & Loyalty
19 ธ.ค. 2555




Call Center Master Article

บริหารจัดการการลาออกของพนักงาน Call Center อย่างไรให้ราบรื่น article
8 วิธีที่จะเปลี่ยนลูกค้าร้องเรียนให้พึงพอใจ article
เทคนิค 7 ข้อในการตรวจสอบคุณภาพการบริการทางโทรศัพท์ article
เทคนิค 5 ข้อ ที่นักขายทางโทรศัพท์ (Telesales) ควรรู้ article
10 ดัชนีสำคัญที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของ Call Center article
เทคนิค 5 ข้อในการเพิ่มประสิทธิภาพการรับสาย ( 5 Tips to improve phone service level) article
4 แนวโน้มใหญ่ ของ CRM ปี 2017 article
ใช้บทสนทนามาตรฐาน (Script) อย่างไรให้เหมาะสม article
การสร้างความประทับใจจากข้อร้องเรียนของลูกค้า article
พัฒนาหน่วยงานบริการลูกค้าของคุณให้เป็น Omni-Channel Contact Center article
เตรียมความพร้อมให้บริการลูกค้าผ่านระบบ Live Chat article
การบูรณาการระบบ CRM article
5 ขั้นตอนสำหรับนักขายเมื่อโทรหาลูกค้า article
5 แนวคิดในการกระตุ้นการทำงานของทีมงาน Contact Center article
ออกแบบแบบฟอร์มตรวจสอบคุณภาพการบริการของ Contact Center อย่างไร article
GIS ระบบบอกตำแหน่งผู้โทรว่าอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้ article
ระบบ Real-Time Monitoring ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารหน่วยงาน Contact Center article
หัวหน้าทีม Contact Center จะบริหารการรับข้อร้องเรียนของลูกค้าอย่างไร article
เทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Technology) สามารถเพิ่มผลการตอบสนองกลับและการมีส่วนร่วมของลูกค้าได้ article
10 วิธีที่เทคโนโลยีสามารถเพิ่มศักยภาพการทำงานของ Contact Center Agent article
5 วิธี สำหรับจัดการทีมงานที่ทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย article
10 ข้อ ที่เจ้าหน้าที่ขายทางโทรศัพท์ (Telesales) ไม่ควร ทำ article
VDO Contact Center เทคโนโลยีที่จะมากับ 4G article
เทคนิคการทำ Call Calibration ที่มีประสิทธิภาพ article
แนวโน้มเทคโนโลยี Contact Center ในปี 2559 article
7 คำถามที่ Contact Center Manager ควรมีคำตอบ article
10 ไอเดียของขวัญสำหรับ Contact Center Agent ของคุณ article
FXO กับ FXS ในระบบ IPPBX คืออะไร article
5 วิธีในการเพิ่มคุณภาพการบริการของ Contact Center article
บทวิเคราะห์ : ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Contact Center เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิตัล article
Contact Center ของคุณรองรับ Omni Channel หรือยัง? article
เทคนิคการเขียนอีเมลอย่างมีคุณภาพ article
ฝึกฝนเจ้าหน้าที่ขายสินค้าทางโทรศัพท์ให้เป็นมืออาชีพ article
5 วิธี เพื่อสร้างการบริการเกินความคาดหวัง article
5 แนวโน้ม CRM ที่ต้องรู้ก่อนใช้ article
เพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้า โดย Multi-Channel Contact Center article
เทคนิค 5 ข้อสำหรับห้วหน้างานในการเจรจากับเจ้าหน้าที่ Call Center ที่มีปัญหา article
IoT (Internet of Things) จะเปลี่ยนแปลงการบริการใน Call Center
เทคนิค 7 ข้อในการพัฒนาทักษะการพูดของผู้ให้บริการ article
5 วิธี เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าในการติดต่อ Call Center article
Mystery Shopper มีประโยชน์อย่างไร article
CTI หัวใจของการบริการลูกค้า article
Call monitoring ช่วยพัฒนาทีมขาย (Telesales Team) ของคุณได้อย่างไร article
เพิ่มศักยภาพให้หน่วยงาน Contact Center ของคุณ article
แนวคิดในการบริหารจัดการสายเรียกเข้าศูนย์บริการคอลเซ็นเตอร์ article
จะบริหารทีมงาน Outsource Call Center อย่างไร (ตอนที่ 2) article
SIP Trunk จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจ Call Center ในเมืองไทย article
จะบริหารทีมงาน Outsource Call Center อย่างไร (ตอนที่ 1) article
5 วิธีในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของ Contact Center article
8 ขั้นตอนเพื่อลดการลาออกของเจ้าหน้าที่ Call Center article
15 สถิติที่ควรเปลี่ยนโลก CRM article
8 เคล็ดลับ (Tips) สำหรับการให้บริการลูกค้าทางอีเมล article
การทำ Call Monitoring ช่วยพัฒนางานบริการของคุณได้อย่างไร article
จะทราบได้อย่างไรว่าทีมงานของคุณมีขวัญและกำลังใจในการทำงานดี article
การบริหารจัดการจดหมายอิเลคทรอนิค หรือ Email ในงานบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตอนที่ 2 article
10 ข้อที่ผู้ให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ ไม่ควรทำ article
การบริหารจัดการจดหมายอิเลคทรอนิค (Email) ในงานบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตอนที่ 1 article
เคล็ด (ไม่) ลับสำหรับผู้เข้าอบรมด้านการบริการ article
Home Agent อีกทางเลือกหนึ่งของการบริการ Call Center article
ลักษณะที่ดีของนักขายสินค้าทางโทรศัพท์ article
เคล็ดลับ 5 ข้อในการเป็นสุดยอดหัวหน้าทีมบริการลูกค้า article
เทคนิคในการพัฒนาคุณภาพการบริการของเจ้าหน้าที่ Call Center article
ทักษะที่สำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ Call Center article
การคิดเชิงบวกมีผลดีต่อผู้ให้บริการอย่างไร article
5 เคล็ดลับในการสร้างกำลังใจในการทำงาน article
กลยุทธ์ในการบริหารทีมงาน Call Center article
การนำ Social Media มาเป็นหนึ่งในช่องทางการบริการลูกค้าใน Contact Center article
ดัชนีที่ใช้วัดประสิทธิภาพของการโทรออก (Telemarketing and Telesales Performance Indicators) article
การขายสินค้าทางโทรศัพท์อย่างมืออาชีพ article
การอบรมเจ้าหน้าที่ Call Center มือใหม่ ควรจะเริ่มต้นอย่างไร article
เทคนิคในการเลือกใช้คำพูดเมื่อต้องให้บริการลูกค้าเจ้าปัญหา article
Asterisk : All in One Call Center Solution ของฟรีมีในโลก article
พนักงาน Call Center ที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร article
อยากมี Call Center ต้องเตรียมตัวอย่างไร article
คำถามยอดฮิตในการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ Call Center article
Call Monitoring จำเป็นสำหรับ Call Center ของคุณอย่างไร article
Customer Satisfaction Survey ทำกันอย่างไร article
10 วิธีจัดการลูกค้าร้องเรียนให้ได้ผล article
Outsource Call Center เหมาะกับธุรกิจของคุณ หรือไม่